วันอังคารที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

แอโรบิคมวยไทย

ความเป็นมา/หลักการเหตุผล



คีตะมวยไทยแอโรบิค

คีตะมวยไทย หรือนาฏมวยไทย เป็นการออกกำลังกายรูปแบบหนึ่งที่มีมานานราว 10ปีแล้ว โดยนำเอาท่าทางของ “แม่ไม้มวยไทยมาผสมผสานกับการออกกำลังกายแบบแอโรบิกประกอบกับเสียงเพลงหรือพูดง่ายๆ ก็คือ “แอโรบิกมวยไทยแต่ยังไม่เป็นที่รู้จักหรือนิยมในวงกว้างมากนักที่ผ่านมาจะเป็นในรูปแบบของการจัดประกวดระดับนักเรียน เพื่อสืบสานศิลปะมวยไทย

เป็นกิจกรรมที่ผสมผสานระหว่างการเต้นแอโรบิกกับกีฬามวยไทยจัดเป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิคอีกรูปแบบหนึ่งที่ช่วยเรียกเหงื่อและรอยยิ้มได้เป็นอย่างดีมวยไทยแอโรบิคเป็นการนำลักษณะการออกอาวุธของมวยไทย เช่น การออกหมัด การเตะ ฯลฯมาประยุกเป็นท่าเต้นแอโรบิค และเพื่อสนองนโยบายของรัฐบาลมีความมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมสนับสนุนและดำเนินการในด้านสุขภาพ ให้กับนักเรียนให้มีสุขภาพทางด้านสุขภาพกายและสุขภาพใจให้มีความเป็นอยู่อย่างมีความสุขทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ สังคม อารมณ์ สติปัญญาโดยการให้นักเรียนสามารถดูแลและสร้างภูมิคุ้มกันให้กับสุขภาพตนเองได้ด้วยการออกกำลังกายสร้างสุขภาพเพื่อให้มีสุขภาพพลานมัยดี ซึ่งจะเป็นภูฒิคุ้มกันโรคได้อย่างดี อีกทั้งยังสามารใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ได้อีกทางหนึ่งด้วย

ดังนั้นโรงเรียนวัดบ้านลุ่มจึงจัดทำโครงการวาฃ่งเสริมสุขภาพการออกกำลังกายด้วยมวยไทยแอโรบิคขึ้นเพื่อตอบสนองหลักการและเหตุผลดังกล่าว


อีกทั้งยังเป็นการออกกำลังกายที่ส่งผลดีต่อสุขภาพหลากหลายด้าน ได้แก่ 

1.ด้านร่างกาย ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบปอดและระบบไหลเวียนโลหิตเพิ่มประสิทธิภาพของกล้ามเนื้อ เอ็นและข้อต่อต่าง ๆ ในร่างกาย เพิ่มประสิทธิภาพของระบบประสาท 
2.ด้านจิตใจ ช่วยผ่อนคลายและลดความเครียด สร้างความเชื่อมั่นให้ตัวเอง สร้างความสนุกสนานและทำให้มีทัศนคติที่ดีต่อร่างกาย เป็นการเพิ่มความสัมพันธ์ของสมาชิกในครอบครัว  
3. ทางด้านสังคม ทำให้มีเพื่อนใหม่ สังคมใหม่ๆ เรียนรู้การปรับตัวเข้ากับสังคม และเป็นโอกาสที่จะเปลี่ยนกิจกรรมและสภาพแวดล้อม เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นให้ตัวเองพร้อมกับพัฒนาบุคลิกภาพ 






การออกกำลังกายแบบแอโรบิกมวยไทย กำลังเป็นที่สนใจเช่นกัน เนื่องจากผู้ออกแบบท่าได้ประยุกต์ลีลามวยไทยเข้ากับจังหวะ ต่างจากบอดี้คอมแบต ตรงที่ใส่ลีลาท่าทางมวยไทยแท้เข้าไท่วงท่าลีลาของมวยไทย เมื่อนำมาประยุกต์กับการเต้นแบบแอโรบิกจะต้องปรับให้เหมาะสม โดดตัดท่าที่ผาดโผนออกไป เราจึงไม่ได้เห็นนักเต้นแอโรบิกวาดลวดลายจระเข้ฟาดหาง ศอกพุ่ง หรือหนุมานถวายแหวน มอญแทงกริช เหมือนในเวทีมวยทั่วไป ” วนิดา พันธ์สะอาด วิทยากรแอโรบิกมวยไทย กล่าว

ท่าแอโรบิกมวยไทยจะใช้ หมัด ในท่าตรง งัด ตวัด เสย , ศอก ในท่าตี ตวัด งัด กระทุ้ง คว้างหลัง , เข่า ในท่าเตะตรง และเตะเฉียง และส่วนปลายเท้าที่ส่งไปทั้งด้านหน้าและด้านหลัง โดยเริ่มจากการอุ่นเครื่องฟุตเวิร์ก ก่อนทำแอโรบิกทุกครั้ง

ท่าออกหมัด ศอก และเข่า เมื่อประยุกต์เป็นท่าแอโรบิก จะต้องคำนึกถึงจุดล็อกกล้ามเนื้อ เช่นเหวี่ยงข้อศอกออกไปข้างลำตัว และหยุดค้างไว้สักครู่ เพื่อลดอาการกระตุก กระชาก จากการเหวี่ยงแบบสุดแรง จนทำให้เกิดอาการกล้ามเนื้อฉีกได้

คนส่วนใหญ่ที่เล่นแอโรบิกมวยไทย เป็นผู้ที่ต้องการเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกาย เพื่อลดอาการเจ็บปวด บริเวณ หลัง หัวไหล่และขา โดยเฉพาะผู้สูงวัย แต่อาจจะไม่ได้ผล หากต้องการแอโรบิกเพื่อลดน้ำหนัก เนื่องจากต้องทำเป็นประจำ ค่อยเป็นค่อยไป ทำให้เห็นผลช้า เมื่อเทียบกับการออกกำลังกายชนิดอื่น” วิทยากร ให้ความเห็น

อย่างไรก็ตามการฝึกแอโรบิกอย่างมีประสิทธิภาพ จะต้องทำเป็นประจำสัปดาห์ละ 3-5 ครั้ง ความหนักของการออกกำลังกายอยู่ในระดับเหนื่อยปานกลาง หรืออัตราการเต้นของหัวใจสำรองอยู่ที่ 60-80 เปอร์เซ็นต์ ครั้งละ 20-30 นาที เช่น หมัด ศอก เข่า แตะ ขณะที่บอดี้คอมแบต มีลีลาคล้ายมวยสากล คือใช้หมัดมากกว่า








แหล่งอ้างอิง:

 

https://mgronline.com/qol/detail/9620000074482 

https://www.gotoknow.org/posts/473983




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น